Fashion

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2558

การพัฒนาของเกมมือถือ ที่อาจแซงหน้าทุกแพตฟอร์มในอนาคต

การพัฒนาของเกมมือถือ ที่อาจแซงหน้าทุกแพตฟอร์มในอนาคต


    ถึงจะมีเครื่องเกม Next Gen รุ่นใหม่อย่าง PS 4  ออกมาบ้าง แต่กว่าเครื่องจะออกคงกินเวลาไปพอสมควรกว่าจะวางจำหน่าย แล้วด้านฝั่ง PC เกมก็แทบจะไม่กินสเป็คเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะกลุ่มผู้เล่นก็ซื้อฮาร์ดแวร์ตามไม่ทันเช่นกัน ส่วนเกมเล่นผ่านเว็บไซต์ก็พัฒนาคุณภาพตามมาเรื่อยๆ สามารถรันภาพ 3D สมจริงได้มากขึ้น แต่ยังติดข้อจำกัดหลายด้านอยู่ทำให้แทนที่เกม Client ไม่ได้เต็มที่
    มือถือและแท็บเล็ตมีการพัฒนาประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์ให้สูงขึ้นแทบจะทุกปี ซึ่งเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังกลายเป็นอุปกรณ์ในชีวิตประจำวันของวัยรุ่นและคนวัยทำงานส่วนใหญ่ ทำให้อาจจะมาแทนที่ฮาร์ดแวร์ในอนาคตอันใกล้ได้ง่ายด้วย มาดูกันดีกว่าว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เกม PC Console มีความแตกต่างที่ลดลงขนาดไหน

1997
    ยุคสมัย Nokia เพิ่งเริ่มมีเกมงู เทียบได้ กับเครื่อง Commodore VIC-20 เมื่อ 17 ปีก่อนหรือในปี 1980 ยังเทียบกับเกม Console หรือ PC ที่มีสีสันในช่วงหลายปีก่อนหน้านั้นไม่ได้

2001
    ในปีนี้เป็นยุคที่มือถือเริ่มมีสี อย่าง Nokia 7650 ด้วยสีระดับ 8 Bit ส่วนเกมไม่ได้ต่างจากเดิมนัก ในขณะเดียวกันด้าน PS 2 ไปไกลถึงระดับ 3D ภาพสวยๆ ในปีเดียวกัน อย่าง Metal Gear Solid 2 แล้ว ไม่เห็นโอกาสที่จะตามได้ทันเลย

2005
    ก้าวสู่ยุคสมัยใหม่ เริ่มมีการใช้ Smart Phone ภาพแบบ 16 Bit ปรากฏบนจอมือถือได้แล้ว แต่เมื่อเทียบภาพจากเกม Sonic ยังพบว่าเทคโนโลยีห่างกันถึง 15 ปีอยู่ และ Smart Phone ยังถูกมองว่าเป็นเรื่องเกินความจำเป็นในชีวิต

2007
    Smart Phone เริ่มพัฒนาอย่างรวดเร็วแบบเห็นได้ชัด เกม 3D เริ่มเข้ามามีบทบาท ถึงภาพจะยังดูไม่สวยงามกว่า 2 ปีก่อนนัก แต่ก็เทียบได้กับเกมยุค Arcade ในปี 1995 ย่นระยะห่างระหว่างเทคโนโลยีเหลือ 12 ปี

2010
    ช่วงมือถือ iPhone 3GS กำลังบูม ภาพที่เก็บรายละเอียดได้สูงกว่า N64 ปรากฏบนมือถือ แต่ยังไม่ถึงกับ PS 2 น่าจะเทียบได้กับเครื่อง Dreamcast เทียบปีของเกม Rayman ระหว่าง Dreamcast กับในมือถือ ถ้าคิดว่าภาพระดับพอๆ กันน่าจะห่างเพียง 10 ปีเท่านั้น
2012 – 2013
    เกมบนคอนโซลและ PC เริ่มลงมือถือมากขึ้น เห็นความใกล้เคียงกันมากยิ่งขึ้น ถึงภาพจะยังไม่เนียบเท่าแต่ก็มีบางอย่างที่ทำให้คิดว่า อีกไม่กี่ปีคงจะเพิ่มรายละเอียดภาพให้เท่าเทียมกันได้ แต่ด้วยขนาดจอมือถือ 4 – 5 นิ้ว หรือแท็ปเล็ต 7 – 10 นิ้วที่มีขนาดเล็กกว่าจอทีวี เรื่องภาพแตกบ้างหรือหยาบกว่าคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่
    Gran Turismo 5 Prologue: PS3 (2008) กับ Real Racing 3: iOS (2012)
    Forza 2: Xbox 360 (2007) กับ Real Racing 3: iOS (2012)
    Halo 3: Xbox 360 (2007) กับ N.O.V.A. 3: iOS (2012)
    After Burner Climax: Arcade (2006), PSN (2010) กับ After Burner Climax: iOS (2013)
เทียบระยะห่างของเทคโนโลยี
ภาคในปี 2020 อาจจะเทียบชั้นกับเกม PC สบายๆ
    สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจกราฟิกมากนัก จะมีตัวเลือกมากกว่า โดยเกมที่ไม่เน้น 3D เด่นด้านระบบเกม ก็สามารถพอร์ตลงมือถือสบายๆ อย่าง BastionMinecraft หรือ Anomaly: Warzone Earth จนไม่เห็นความแตกต่างระหว่างมือถือกับเกมต้นฉบับมากนัก
Bastion
      ด้านเกมที่ใช้เวลาเล่นค่อนข้างเยอะแนว MOBA ก็ปรากฏในมือถือมากขึ้นอย่าง Heroes of Order and Chaos
Undead Slayer

    อีกสาเหตุหนึ่งที่ในช่วงปีที่ผ่านมา ด้านผู้พัฒนาเกมคอนโซล, PC และออนไลน์หลายค่ายก็แบ่งทีมพัฒนาเกมมือถือมากยิ่งขึ้น เพราะเกมมือถือมีจุดเด่นที่ยืดหยุ่นหลายด้าน และดูมีอนาคตไกล ในขณะที่เกมที่เล่นบนแพตฟอร์มเดิมเริ่มเจอทางตันขึ้นทุกที อีกเหตุผลสำคัญอยู่ตรงเรื่องการซื้อเกมหรือการเติมเงิน ที่สะดวกกว่าบนแพตฟอร์มอื่น เพราะมีช่องทางการจ่ายจากผู้ให้บริการมือถือโดยตรง สะดวกกว่าระบบบัตรเติมเงิน จึงทำกำไรกับเกมเหล่านี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
    ดูจากแนวโน้มแล้ว คาดว่าอีกไม่กี่ปีภาพของเกมระดับ PS3, Xbox 360 ที่ใช้กราฟิกเต็มประสิทธิภาพ คงได้เห็นบนมือถือมากยิ่งขึ้น และคงมีการพัฒนาอุปกรณ์เสริมด้านการควบคุม เพื่อให้เล่นเกมคล้ายเครื่องเกมพกพาแบบ PS Vita หรือ 3DS มากขึ้นได้เช่นกัน

Sumsung เพิ่งเปิดตัวมือถือระดับ 8 Core และ จอยไร้สาย



ขอขอบคุณจากเว็บนี้คร๊าฟๆ   http://www.online-station.net/feature/feature/15440

baifern.

About baifern.

Author Description here.. Nulla sagittis convallis. Curabitur consequat. Quisque metus enim, venenatis fermentum, mollis in, porta et, nibh. Duis vulputate elit in elit. Mauris dictum libero id justo.